LoveRenal
  • Home
  • About us
  • สาระน่ารู้
  • ถาม-ตอบ
  • เมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยระยะก่อนล้างไต
  • เมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยระยะล้างไตแล้ว
  • เคล็ดลับน่ารู้
  • Contact

อาหารที่เปลี่ยนไปเมื่อต้องฟอกไต

9/2/2019

0 Comments

 
Picture
อาหารสำหรับโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการล้างไตทางช่องท้อง Continuous Peritoneal Dialysis (CAPD)
การล้างไตทางช่องท้อง
        เป็นวิธีที่อาศัยเยื่อบุช่องท้องช่วยกรองของเสียออกจากร่างกาย โดยการใส่น้ำยาเข้าในช่องท้องทางสายพลาสติก  ที่แพทย์ได้ทำผ่าตัดฝังไว้ในช่องท้อง ทิ้งน้ำยาไว้ในช่องท้องประมาณ ๔-๖ ชั่วโมง จากนั้นก็ปล่อยน้ำยาออกจากช่องท้องทิ้งไป  โดยทั่วไปจะทำการเปลี่ยนน้ำยาวันละ ๔ ครั้ง   แต่การล้างไตด้วยวิธีนี้ทำให้มีการสูญเสียโปรตีนจำนวนมากออกมาทางน้ำยาในแต่ละวัน  และได้รับน้ำตาลที่สูงกว่าปกติ (จากน้ำยาล้างท้องที่มีน้ำตาลสูง  โดยอาจจะมีกลูโคสถูกดูดซึมเข้าไปได้ถึง  500  กรัม/วัน  )     จะทำให้มีการผลิตไตรกลีเซอไรด์จากตับมากขึ้น ทำให้ร่างกายดื้อต่ออินซูลิน เกิดไขมันในเลือดสูงได้  ดังนั้นผู้ป่วยอาจเกิดภาวะขาดอาหารได้ถ้ากินอาหารไม่เพียงพอ
กินอย่างไรเมื่อมีการล้างไตทางช่องท้อง
โปรตีน ประมาณ 1.2 - 1.5  กรัม /น้ำหนักตัว  1 กิโลกรัม/วัน  โปรตีนที่กินควรเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง ไม่น้อยกว่า 50% ที่ได้จากเนื้อสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะเนื้อปลา และไข่ขาว เพราะมีไขมันน้อยย่อยง่ายและดูดซึมดี   และควรกินเนื้อสัตว์ประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ติดมัน เช่น เนื้อหมูเนื้อไก่ ฯลฯ การได้รับโปรตีนไม่เพียงพอนาน ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อซูบผอม ภูมิต้านทานโรคต่ำ
- พลังงาน⚡️ ถ้าอายุน้อยกว่า  60  ปี  ต้องการพลังงานเท่ากับ  35  กิโลแคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน  ถ้าอายุมากกว่าหรือเท่ากับ  60  ปี  ต้องการพลังงานเท่ากับ  30-35  กิโลแคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว  1  กิโลกรัมต่อวัน  ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวมากลดพลังงานเหลือ  25  กิโลแคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1  กิโลกรัม  โดยการกินอาหารที่ให้พลังงานอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายนำสารโปรตีนมาใช้เผาผลาญเป็นพลังงาน อาหารที่ให้พลังงานที่ดี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวขาว  เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง เผือก มัน ฯลฯ ควรงดกินของหวาน  น้ำหวาน อาหารที่มีน้ำตาลสูง
​
- ฟอสฟอรัส
🦴 ควรจำกัด 800-1200  มิลลิกรัม/วัน หรือ < 17 มิลลิกรัม/กก.  ถ้ามีฟอสฟอรัสในเลือดสูงควรจำกัดอาหารที่มีฟอสฟอรัส  ได้แก่   เมล็ดพืชต่างๆ  เช่น ถั่วและผลิตภัณฑ์จากถั่ว  เช่น เต้าหู้  โปรตีนเกษตร และจำกัดการดื่มนม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เนย  โยเกิร์ต  เบเกอรี่  เค้ก  พาย  ช็อคโกแลต  น้ำอัดลมสีเข้มกาแฟ  ชาเบียร์ ไข่แดง  เพราะการสะสมฟอสฟอรัสในร่างกายมากๆ จะมีผลต่อระดับฮอร์โมนพาราไทรอยด์ และวิตามินดี ทำให้เกิดภาวะกระดูกผุ และอาการกล้ามเนื้ออ่อนเพลียได้ อย่างไรก็ตามแพทย์มักจะสั่งยาที่สามารถจับฟอสเฟต(ฟอสฟอรัส) ให้กินร่วมไปด้วยเพื่อช่วยบรรเทาปัญหานี้

- โซเดียม🧂 การได้โซเดียมมากเกินไปจะทำให้มีน้ำสะสมในร่างกายมาก เมื่อมีน้ำมากจะเกิดความดันโลหิตสูง น้ำท่วมปอด  ควรจำกัดโซเดียมในอาหารไม่ให้เกิน ๒๐๐๐ มก / วัน หรือคิดเป็นแกลือแกงประมาณ ๑ ช้อนชา หรือน้ำปลา หรือ ซีอิ๊ว ในการประกอบอาหารได้มื้อละ ๑ ช้อนชา และไม่ให้มีการเติมเพิ่มอีกระหว่างการกิน ผู้ป่วยจึงควรรับประทานอาหารรสอ่อนเค็มและหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด เช่น น้ำปลา ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม เต้าเจี้ยว ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ หรืออาหารหมักดอง ที่ใช้เกลือในการถนอมอาหาร เช่น ไข่เค็ม กะปิ เต้าหู้ยี้ ปลาเค็ม แหนม ผักดองเปรี้ยว ผลไม้ดอง เป็นต้น

- เครื่องเทศ🍲 ที่ใช้ประกอบอาหารเมื่อถูกจำกัดโซเดียม โดยสามารถกินได้ เช่น  กระเทียม  ใบกระเพรา  ใบแมงลัก  ใบสะระแหน่มะนาว  ขิง  ข่า  ตะไคร้  ใบมะกรูด  รากผักชี  พริกไทย ลุกผักชี  ยี่หร่า  อบเชย   ลูกจันทร์ ลูกกระวาน  กานพลู

- โปแตสเซียม😨  ควรได้รับ 3,000-4,000  มิลลิกรัม/วัน หรือไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับระดับของ  โปแตสเซียมในเลือด  การมีโปแตสเซียมในเลือดสูงมากเกินไป  จะทำให้หัวใจหยุดเต้นได้
อาหารที่มีโปแตสเซียมสูงควรงดกิน เช่น ในผักใบเขียวเข้ม และสีส้ม เช่น คะน้า กวางตุ้ง แครอท ฟักทอง ฯลฯ และผลไม้เช่น ทุเรียน  กล้วย  กระท้อน ฝรั่ง ลูกเกด ลูกพรุนแห้ง  ฯลฯ
*อาหารที่มีโปแตสเซียมปานกลาง     เช่น  ส้มเขียวหวาน มะม่วงดิบ  ส้มโอ  แอปเปิ้ล
*อาหารที่มีโปแตสเซียมต่ำ  ที่สามารถเลือกรับประทานได้ควรลวก หรือต้มผักให้สุก เช่น ฟักเขียวสุก แตงกวา บวบสุก ผักกาดขาวปลีสุก ถั่วฝักยาวสุก ถั่วงอกสุกฯลฯ และผลไม้ที่กินได้ เช่นลองกอง ชมพู่ เงาะ แอปเปิ้ล องุ่น มังคุด แตงโม ฯลฯ
*น้ำควรได้รับ 2,000-3,000 ซีซี/วัน
หมวดอาหารแลกเปลี่ยน สำหรับผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้อง
หมวดเนื้อสัตว์  1 ส่วน ( 30 กรัม) มีโปรตีน 7 กรัม พลังงานเฉลี่ย 70 กิโลแคลอรี่  ได้แก่  เนื้อหมูสับสุก 2 ช้อนโต๊ะ, เนื้อไก่สุก  2  ช้อนโต๊ะ, กุ้งสุก  3-5  ตัว, เนื้อหมูสุก 2 ช้อนโต๊ะ, เนื้อปลาสุก  2 ช้อนโต๊ะ,  ไข่ต้มทั้งฟอง 1 ฟอง, ไข่ขาวต้ม 2 ฟอง,  ลูกชิ้น  5 ลูก 
หมวดข้าวและแป้ง 1 ส่วน มีโปรตีน 2 กรัม พลังงานเฉลี่ย 70 กิโลแคลอรี่ ได้แก่   ขนมปังกรอบ (2X2 นิ้ว)  6 ชิ้น, ข้าวสวย 1 ทัพพี,  เส้นหมี่ 1 ทัพพี,  บะหมี่ ½ ก้อน, ข้าวเหนียว ½ ทัพพี, 
ขนมปัง 1 แผ่น
หมวดผัก 1 ส่วน มีโปรตีน 1 กรัม พลังงานเฉลี่ย 25 กิโลแคลอรี่ ได้แก่  ผักบุ้งจีนสุก  1 ทัพพี, แครอทสุก  1ทัพพี, ผักกาดขาวสุก 1 ทัพพี, ถั่วฝักยาวสุก 1 ทัพพี, กะหล่ำปลีสุก 1ทัพพี, ถั่วงอกสุก 1ทัพพี
หมวดผลไม้ 1 ส่วน มีโปรตีน 0.5 กรัม พลังงานเฉลี่ย 70 กิโลแคลอรี่ ได้แก่ สัปปะรด 8 ชิ้นพอคำ,  แตงโม  10 ชิ้นพอคำ,  แอปเปิ้ล 1 ผลเล็ก, เงาะ 4 ผล,  มังคุด 4ผล, ส้มเขียวหวาน 1 ผล,  ชมพู่ 3 ผล, องุ่น 12 เม็ดเล็ก, มะม่วงดิบ 8 ชิ้นพอคำ
หมวดแป้ง ที่ให้พลังงาน 70 กิโลแคลอรี่ แต่ให้โปรตีนน้อย เช่น วุ้นเส้นสุก 1 ทัพพี (ดิบ ½ กำเล็ก), สาคูสุก 1 ทัพพี(ดิบ  2 ช้อนโต๊ะ), ก๋วยเตี๋ยวเซียงไฮ้สุก 1 ทัพพี (แผ่นกลม 1 แผ่น)
ตัวอย่างอาหารที่ทำจากแป้งปลอดโปรตีน
ผัดไทวุ้นเส้น,  ยำวุ้นเส้น, ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ผัด,  , แกงจืดวุ้นเส้น, ขนมลืมกลืน, ขนมชั้น,  สาคูข้าวโพด,  สาคูน้ำแดง ฯลฯ
ตัวอย่างอาหารผู้ป่วยที่ได้รับการล้างไตทางหน้าท้องพลังงาน  1,800 กิโลแคลอรี่/วัน
Picture
**ถ้าต้องการพลังงานเพิ่มและไม่เป็นเบาหวานสามารถใช้น้ำตาล  แต่ถ้าเป็นเบาหวานให้ใช้แป้งปลอดโปรตีนแทน
​(น้ำตาล  1 ช้อนชา= 20 KCAL)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลราชวิถี

อาหารสำหรับโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
การฟอกเลือด  คือการนำเลือดออกจากร่างกายผ่านเข้าเครื่องฟอกเลือด เพื่อกำจัดของเสียปรับระดับเกลือแร่ และปรับดุลของน้ำหลังจากนั้นจึงนำเลือดกลับเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วย เป็นการแลกเปลี่ยนของเสีย เกลือแร่ ระหว่างเลือดกับน้ำยาฟอกเลือดโดยผ่านทางตัวกรอง
ผู้ป่วยโรคไตที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) ควรรับประทานอาหารอย่างไร
        ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฟอกเลือดด้วยไตเทียม จะต้องฟอกเลือดประมาณสัปดาห์และ 2 – 3 ครั้ง ๆ ละ 4-6 ชั่วโมง ซึ่งต่างกับไตธรรมชาติที่ทำหน้าที่ 24 ชั่วโมง ทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฟอกเลือดด้วยไตเทียมยังมีของเสียคั่งอยู่มากโดยเฉพาะผู้ที่ทำการฟอกเลือดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ๆ ละ 4 ชั่วโมง ของเสียที่คั่งอยู่ได้แก่  สารโพแทสเซียม โซเดียม ฟอสเฟตและน้ำ  จึงต้องจำกัดสารเหล่านี้ ส่วนสารโปรตีนมักได้ไม่เพียงพอ  ผู้ป่วยจึงต้องรับประทานอาหารที่ให้โปรตีนเพิ่มขึ้น เนื่องจากในการฟอกเลือดแต่ละครั้งจะมีการสูญเสียกรดอะมิโน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโปรตีน10 – 13 กรัม  นอกจากนี้การฟอกเลือดยังกระตุ้นให้มีการสลายกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายเพิ่มขึ้น

📌สารโปรตีนคืออะไร
          โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ และซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค เป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่างๆกล้ามเนื้อฮอร์โมนเลือด ฯลฯสารโปรตีนมีมากในเนื้อสัตว์  เช่น  เนื้อหมู  ไก่ ปลา  เนื้อสัตว์ไม่ติดมันรวมทั้งไข่ เนื้อสัตว์เป็นแหล่งสำคัญของสารอาหาร
          โปรตีน ซึ่งจำเป็นในการเสริมสร้างร่างกายและภูมิคุ้มกันโรค ผู้ป่วยที่ฟอกเลือดด้วยไตเทียมจึงต้องรับประทานเนื้อหมู ไก่ ปลา และไข่ขาวให้เพียงพอ เพราะนอกจากใช้ในการเสริมสร้างร่างกายแล้ว ยังต้องชดเชยส่วนที่สูญเสียไปในการฟอกเลือดแต่ละครั้งอีกด้วย จึงควรได้รับเนื้อสัตว์สุก 40 –50 กรัม (3-4 ช้อนโต๊ะ) ในแต่ละมื้อ ร่วมกับรับประทานไข่ขาววันละ 2 ฟอง แต่ถ้ารับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์มากเกินไปก็จะยังคงมีของเสียมาก เนื่องจากไตเทียมสามารถเอาของเสียออกได้เพียง 10.0 เปอร์เซ็นต์ของไตธรรมชาติเท่านั้น ดังนั้นควรรับประทานในปริมาณที่แนะนำ
รับประทานข้าว และอาหารจำพวกแป้งอื่น ๆ ได้เท่าไร
          ข้าว ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ขนมจีน ขนมปัง ข้าวโพด เผือก มัน เป็นอาหารที่ให้พลังงานเป็นหลัก  ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับให้เพียงพอเพื่อป้องกันมิให้ร่างกายนำสารโปรตีนมาใช้เผาผลาญเป็นพลังงาน ซึ่งจะทำให้โปรตีนที่ได้รับไม่สามารถใช้ไปในการเสริมสร้างร่างกาย และเกิดภาวะขาดโปรตีนและพลังงานได้
 - ผักที่สามารถรับประทานได้ 😋
        ผักอุดมไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่หลายชนิด ได้แก่  เบต้า – แคโรทีน ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฟอกเลือดด้วยไตเทียมมักมีการสูญเสียวิตามินที่ละลายในน้ำไปกับการฟอกเลือด การรับประทานผักจะช่วยให้ได้รับวิตามินเพิ่มขึ้นและใยอาหารช่วยในการขับถ่ายดีขึ้น ในผักใบเขียวเข้ม และสีส้มมีสารโพแทสเซียมสูง และผู้ป่วยมักมีปัญหาขับถ่ายโพแทสเซียมได้น้อย จึงควรเลือกรับประทานผักที่มีโพแทสเซียมต่ำและควรลวก หรือต้มผักให้สุก เช่น ฟักเขียวสุก แตงกวา บวบสุก ผักกาดขาวปลีสุก ถั่วฝักยาวสุก ถั่วงอกสุก เป็นต้น
​ 
- ผลไม้อะไรที่ทานได้ 
😋
        ผลไม้มีวิตามินซี เกลือแร่ ใยอาหาร แต่ผลไม้มีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยควรเลือกรับประทานผลไม้ที่มีโพแทสเซียมต่ำ เช่น ลองกอง ชมพู่ เงาะ แอปเปิ้ล องุ่น มังคุด แตงโม เป็นต้น
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
        ถั่วเมล็ดแห้งหรือเมล็ดพืชควรหลีกเลี่ยงเพราะมีโพแทสเซียมสูง และฟอสฟอรัสสูงด้วยผู้ป่วยที่รักษาด้วยการฟอกเลือดด้วยไตเทียมมักมีปัญหาการขับถ่ายฟอสเฟตได้น้อย ทำให้มีระดับฟอสฟอรัสในเลือด และแคลเซียมในเลือดต่ำ ซึ่งจะกระตุ้นให้ฮอร์โมนจากพาราไทรอยด์หลั่งออกมา ทำให้มีการสลายแคลเซียมจากกระดูกเพิ่มขึ้น เป็นผลให้กระดูกเสื่อมมีภาวะปวดกระดูก กระดูกเปราะหักงาย  ดังนั้นผู้ที่ฟอกเลือดด้วยไตเทียม จึงควรหลีกเลี่ยงถั่วเมล็ดแห้ง เมล็ดพืชต่าง ๆ  เต้าหู้ทุกชนิด น้ำอัดลมที่มีสีเข้ม เค้กและพาย

อาหารที่มีรสเค็มจัด สามารถรับประทานได้บ้าง หรือไม่?
        ผู้ป่วยเมื่อฟอกเลือดนานเข้าอาจไม่มีปัสสาวะ และผู้ป่วยทำการฟอกเลือดเพียงสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง จึงอาจมีสารโซเดียม และน้ำคั่งในร่างกายเกิดอาการบวมน้ำ ความดันโลหิตสูงขึ้น ถ้าบวมมากอาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ผู้ป่วยจึงควรจำกัดอาหารที่มีโซเดียมมากมักมีเกลือมาก และมีรสเค็มจัด เมื่อผู้ป่วยรับประทานอาหารเค็ม หรือรสจัดมาก ก็จะหิวน้ำ ดื่มน้ำมาก เมื่อขับถ่ายโซเดียมได้น้อยก็จะมีการกักเก็บน้ำไว้ตามเนื้อเยื่อทำให้บวม ความดันโลหิตสูงขึ้นเกิดอันตรายได้ผู้ป่วยจึงควรรับประทานอาหารรสอ่อนเค็มและหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด เช่น น้ำปลา ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม เต้าเจี้ยว ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ หรืออาหารหมักดอง ที่ใช้เกลือในการถนอมอาหาร เช่น ไข่เค็ม กะปิ เต้าหู้ยี้ ปลาเค็ม แหนม ผักดองเปรี้ยว ผลไม้ดอง เป็นต้น
📌ตัวอย่างอาหารโปรตีน 60 กรัม/ 1 วัน
หมวดอาหาร                เช้า         กลางวัน      เย็น
เนื้อสัตว์และไข่       4 ช้อนโต๊ะ   4 ช้อนโต๊ะ   4 ช้อนโต๊ะ
ข้าวและแป้ง             2 ทัพพี       2 ทัพพี       3 ทัพพี
ผัก                          1 ทัพพี       1 ทัพพี       1 ทัพพี 
ผลไม้                       1 ส่วน            -           1 ส่วน
น้ำมันพืช                3 ช้อนชา     3 ช้อนชา   4 ช้อนชา
น้ำตาล                   2 ช้อนชา     2 ช้อนชา   2 ช้อนชา
แป้งปลอดโปรตีน           -          1 ทัพพี          -
หมายเหตุ
ผลไม้ 1 ส่วน  =  มังคุด ชมพู่ เงาะ 3-4 ผล
                   =  แตงโม สับปะรด 6-8 ชิ้นพอคำ
                   =  ลองกอง ลิ้นจี่  6 ผล 
แป้งปลอดโปรตีน    = วุ้นเส้น  สาคู เส้นเซี่ยงไฮ้ วุ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลราชวิถี
---------
รอฟังเคล็ดลับสุขภาพดีๆเพิ่มเติมจากเราได้ที่นี่นะจ๊ะ

LINE ID : @LoveRenal (มี @ ด้วยนะคะ)
หรือ Click : https://goo.gl/whQ3g6

​“สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการเลือกรับประทาน”
“Love Renal” - รักไต
0 Comments



Leave a Reply.

    Picture
© 2018 Proudly powered by LoveRenal
  • Home
  • About us
  • สาระน่ารู้
  • ถาม-ตอบ
  • เมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยระยะก่อนล้างไต
  • เมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยระยะล้างไตแล้ว
  • เคล็ดลับน่ารู้
  • Contact